วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

การจัดการชั้นเรียน : การตั้งกฎในห้องเรียน รศ.สมศรี เพ็ชรยิ้ม

การจัดการชั้นเรียน : การตั้งกฎในห้องเรียน รศ.สมศรี เพ็ชรยิ้ม รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการและวิจัยด้านอนุบาล รร.สาธิตพัฒนา




รศ.สมศรี เพ็ชรยิ้ม ผู้มีประสบการณ์สอนนักเรียนระดับประถมศึกษามามากกว่า 30 ปี มาแบ่งปันประสบการณ์การจัดการชั้นเรียนเรื่องการตั้งกฏในห้องเรียนให้ได้ผล หลังจากชมส่วนหนึ่งของการตั้งกฏในโรงเรียนและห้องเรียนจากตอน "นิเทศการสอนกับคาวลีย์ : ตั้งกฎโรงเรียนให้ได้ผล - Teaching With Cowley : School Rules OK" เพื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนครูนำมาประยุกต์ใช้จัดการชั้นเรียนในบริบทของตนเอง


แหล่งอ้างอิง
http://www.thaiteachers.tv/vdo2.php?id=3400

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม


สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม (Mammalia) จัดอยู่ในไฟลัมสัตว์มีแกนสันหลัง โดยคำว่า Mammalia มาจากคำว่า Mamma ที่มีความหมายว่า "หน้าอก" เป็นกลุ่มของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม ที่มีการวิวัฒนาการและพัฒนาร่างกายที่ดีหลากหลายประการ รวมทั้งมีระบบประสาทที่เจริญก้าวหน้า สามารถดำรงชีวิตได้ในทุกสภาพสิ่งแวดล้อมมีขนาดของร่างกายและรูปพรรณสัณฐานที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงการทำงานของระบบต่าง ๆ ภายในร่างกาย ที่มีการปรับเปลี่ยนไปตามลักษณะของสายพันธุ์ มีลักษณะเด่นคือมีต่อมน้ำนมที่มีเฉพาะในเพศเมียเท่านั้น เพื่อผลิตน้ำนมเพื่อใช้เลี้ยงลูกวัยแรกเกิดเป็นสัตว์เลือดอุ่น มีขนเป็นเส้น ๆ (hair) หรือขนอ่อน (fur) ปกคลุมทั่วทั้งร่างกาย เพื่อเป็นการรักษาอุณหภูมิในร่างกาย ยกเว้นสัตว์น้ำที่ไม่มีขน

สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม สุนัข
สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม ไม่จัดอยู่ในประเภทสัตว์กลุ่มใหญ่ คือมีจำนวนประชากรประมาณ 4,500 ชนิด ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณน้อยมากเมื่อเทียบกับนกที่มีประมาณ 9,200 ชนิด และปลาอีกประมาณ 20,000 ชนิด รวมทั้งแมลงอีกประมาณ 800,000 ชนิด ส่วนใหญ่เป็นสัตว์บก เช่น สุนัข ช้าง ลิง เสือ สิงโต จิงโจ้ เม่น หนู ฯลฯ สำหรับสัตว์น้ำที่จัดเป็นเลี้ยงลูกด้วยน้ำนม ได้แก่ โลมา วาฬ มานาทีและพะยูน แต่สำหรับสัตว์ปีกประเภทเดียวที่เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมคือค้างคาว ซึ่งกระรอกบินและบ่างนั้น ไม่จัดอยู่ในประเภทของสัตว์ปีก เนื่องจากใช้ปีกในการร่อนไปได้เพียงแค่ระยะหนึ่งเท่านั้น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมส่วนใหญ่ออกลูกเป็นตัว ยกเว้นตุ่นปากเป็ดและอีคิดนาเท่านั้นที่ออกลูกเป็นไข่

                                                                     

แหล่งอ้างอิง



ชะนีมือขาว (ชะนีธรรมดา)

4.ชะนีมือขาว (ชะนีธรรมดา)

ชะนีมือขาว (ชะนีธรรมดา)

 

ลักษณะทั่วไป
ชะนีมือขาวมีทั้งสีดำและสีขาว ส่วนหลังมือและหลังเท้าเป็นสีขาวและมีวงขาวรอบใบหน้า ใบหน้าและหูดำ มือยาว รูปร่างเพรียว ไม่มีหาง บางคนเรียกว่า ชะนีปักษ์ใต้ซึ่งความจริงแล้วก็คือชะนีมือขาวนั่นเอง
ถิ่นอาศัย, อาหาร
พบในพม่าแถบเทือกเขาตะนาวศรี ไทย ลาวและทางด้านตะวันออกของแม่น้ำสาละวิน ทางด้านตะวันตกของแม่น้ำโขงในลาว ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของยูนนาน มาเลเซีย และทางด้านทิศเหนือของเกาะสุมาตราสำหรับประเทศไทยพบได้ทั่วไปยกเว้นจังหวัดจันทบุรี กินผลไม้ ยอดไม้ ไข่นก และแมลงต่าง ๆ
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.zoothailand.org

แหล่งอ้างอิง

 

เก้งเผือก

3.เก้งเผือก

เก้งเผือก

 

ลักษณะทั่วไป
เหมือนเก้งธรรมดาแต่มีสีขาวปลอดทั้งตัว ปกติชอบอยู่ตามลำพังตัวเดียว หากินตอนเย็นถึงเช้าตรู่ กลางวันหลบนอนตามพุ่มไม้ ปราดเปรียว เวลาตกใจจะส่งเสียงร้องคล้ายเสียงสุนัขเห่า เก้งเผือกเริ่มผสมพันธุ์ได้เมื่ออายุประมาณ 1 ปีครึ่ง ฤดูผสมพันธุ์อยู่ในช่วงฤดูหนาว ตั้งท้องนาน 6 เดือน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว อายุยืนราว 15 ปี
ถิ่นอาศัย, อาหาร
พบในอินโดจีน อินโดนีเซีย จีนตอนใต้ ศรีลังกา อินเดีย สำหรับในประเทศไทยพบทุกภาค เก้งเผือกกินหญ้า ใบไม้ และผลไม้
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.zoothailand.org

แหล่งอ้างอิง

ชะมดแปลงลายแถบ(อีเห็นลายเมฆ)

2.ชะมดแปลงลายแถบ(อีเห็นลายเมฆ)

ชะมดแปลงลายแถบ(อีเห็นลายเมฆ)

 

ลักษณะทั่วไป
ลำตัวเพรียว หางยาว แต่ขาสั้น ด้วยเหตุนี้เมื่อเดินไต่อยู่ตามกิ่งไม้จึงดูคล้ายงูมากกว่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ชะมดแปลงลายแถบต่างกับชะมดแปลงลายจุดตรงที่จุดบนหลังติดกันกลายเป็นแถบคดเคี้ยวขวางหลังของสัตว์ มีอยู่ทั้งหมด 5 แถบ และตามด้านข้างของคอและลำตัว จุดจะติดกัน กลายเป็นแถบคดเคี้ยวมีอยู่ด้านละ 2 แถบ สีพื้นของตัวเป็นสีน้ำตาลแกมเหลืองซีด ๆ หางมีปล้องสีขาวสลับดำอยู่ 7 ปล้อง ไม่มีขนแผงคอหรือแผงหลังและไม่มีต่อมกลิ่น อุ้งเล็บมีปลอกหุ้ม สามารถเอาเล็บออกมาใช้ได้ทันทีเหมือนกับแมวหรือเสือ
ถิ่นอาศัย, อาหาร
ชะมดแปลงลายแถบพบในป่าตามแนวเทือกเขาตะนาวศรี ทางภาคใต้ของประเทศไทย มาเลเซีย สุมาตรา ชวาและบอร์เนียว เป็นสัตว์หายาก เป็นสัตว์กิน นก หนูที่อยู่ตามต้นไม้ งู และสัตว์เล็กอื่น ๆ นอกจากนี้ยังกินแมลงที่ตัวโตๆ
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.zoothailand.org

แหล่งอ้างอิง

ค่างเทา(ค่างหงอก)

      ตัวอย่างสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

1.ค่างเทา(ค่างหงอก)



ค่างเทา(ค่างหงอก)

 ลักษณะทั่วไป
                 ขนส่วนด้านหลังของลำตัวมีสีเข้มเป็นสีเทาดำ แต่ปลายขนสีขาวจึงทำให้มองดูคล้ายสีเทาเหลือบเงิน ส่วนด้านหน้าของลำตัวคืออก ท้องและขาขนมีสีเทาอ่อน ที่หัวมีขนแหลมตรงกลางพุ่งขึ้น ขนด้านข้างของหน้ายาวพุ่งตรงออกด้านข้าง ใบหน้าและมือเท้าสีเทาดำ ไม่มีวงตาขาว ปากบาง ผิวหนังบางส่วนเช่นโคนขาด้านในด่างขาว ลูกค่างเกิดใหม่จะมีขนสีขาวที่หลังมือ,เท้า และตามร่างกาย น้ำหนักตัวประมาณ 6.8 กิโลกรัม ความยาวลำตัวประมาณ 493-570 มิลลิเมตร หางยาว 725-840 มิลลิเมตร
ถิ่นอาศัย, อาหาร
                 พบในพม่า ไทย กัมพูชา ลาว เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ประเทศไทยมีตามป่าดงดิบทุกภาค อาหารได้แก่ ใบไม้และตาอ่อนของพืช แมลง
ข้อมูลเพิ่มเติม
http://www.zoothailand.org


แหล่งอ้างอิง